รองนายก “ประวิตร” ขับเคลื่อน การแก้ปัญหาทรัพยากรทางทะเล พร้อมเร่งรัดการดำเนินงานด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเป็นระบบ

24 กุมภาพันธ์ 2566
36 ครั้ง

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ส่วนเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ กองยุทธศาตร์และแผนงาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรม ทช. ตลอดจนคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในการนี้มีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากกรม ทช. เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ (Zoom Cloud Meeting) ณ ห้องประชุมศูนย์อำนวยการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชั้น 8 กรม ทช.

การประชุมในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เร่งรัดการดำเนินงานด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมมีวาระสำคัญที่เร่งด่วนต้องดำเนินการหลายเรื่อง โดยเฉพาะการพิจารณามอบหมายให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เร่งดำเนินการจัดทำแผนอนุรักษ์พะยูนฯ ในระยะที่ 2 เนื่องจากแผนอนุรักษ์พะยูนฯ ในระยะที่ 1 นั้นถือว่าผลออกมาเป็นที่น่ายินดีเพราะสามารถออกกฎกระทรวงประกาศให้แหล่งอาศัยของพะยูนในอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่คุ้มครองและได้จัดตั้งเครือข่ายอนุรักษ์พะยูนฯและสามารถร่วมออกลาดตระเวนครบทั้ง 13 พื้นที่ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดบูรณาการดำเนินงานร่วมกันให้เป็นระบบ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ กรม ทช. เร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เป็นระบบ พร้อมทั้ง เร่งผลักดันการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมตามข้อมติที่ประชุม โดยที่ผ่านมา กรม ทช. พร้อมกับหน่วยงานทั้งภายใน และภายนอกกระทรวงฯ ได้ร่วมกันฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางทะเล อาทิ การแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณหมู่เกาะสัตหีบ-แสมสาร จังหวัดชลบุรี และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี การลดมลพิษทางทะเลและขยะทะเล และการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืน ต่อไป